4)  บุคคลคุณภาพแห่งปี 2019 ด้านสังคม

 

คุณอาทิวราห์ คงมาลัย (อายุ 40 ปี)

ประธานมูลนิธิก้าวคนละก้าว

1. หน้าที่ความรับผิดชอบในปัจจุบัน

            1. ประธานมูลนิธิก้าวคนละก้าว

            2. นักร้องนำและนักแต่งเพลงของวงบอดี้สแลม

            3. ศิลปินและนักแสดง

2. ประวัติการศึกษา

            ปริญญาตรี คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

 

3. นโยบายและอุดมการณ์ในการทำงาน

คุณอาทิวราห์ หรือ ที่คนไทยรู้จักกันดีในนาม ตูน บอดี่สแลม ศิลปินร็อคแนวหน้าของเมืองไทย เขามีแนวคิดในการทำงาน ดังนี้

1. ทำในสิ่งที่รัก เริ่มต้นจากแค่มีความสุขกับการได้ร้องเพลง อยากทำเพลงเพื่อสร้างความบันเทิงให้ตัวเอง โดยไม่ได้คาดคิดว่าจะมาถึงจุดนี้ได้

2. สนุกและมีความสุขในการทำ ไม่ว่าจะทำอะไรต้องอย่าลืมใส่ความสนุกลงไปในสิ่งที่ทำ ทำแล้วมีความสุข ไม่เดือดร้อนใคร และเป็นแรงบันดาลใจให้คนได้

3. หาความรู้ในรั้วมหาวิทยาลัยก่อนออกข้างนอก การเรียนมหาวิทยาลัยให้จบก่อนออกลุยตามเส้นทางฝัน ทำให้ได้เรียนรู้ที่จะอยู่ในกฎระเบียบ เพราะก่อนที่คุณจะออกนอกกรอบได้ ต้องรู้จักให้ถ่องแท้เสียก่อนว่าในกรอบมีอะไรอยู่

4. คนเราจะประสบความสำเร็จเมื่อเสียชีวิตไปแล้ว เขาบอกเสมอว่า ให้รอวัดความสำเร็จของคน จากตอนที่เขาเสียชีวิตไปแล้วดีกว่า เพราะถ้าคิดว่าวันนี้เราสำเร็จแล้ว และใช้ชีวิตที่เหลืออย่างประมาท โอกาสพลาดก็อาจเกิดขึ้นได้

5. ทำอาชีพในฝันด้วยความอดทน ต้องยอมรับว่าอาชีพในฝัน วันหนึ่งมันจะกลายเป็นงานประจำ เมื่อเราได้เข้าไปทำมัน แต่ในเมื่อมันเป็นถึงอาชีพในฝัน ก็ต้องอดทน ไม่ถอดใจง่ายๆ เพื่อแสดงให้เห็นว่าตัวเรามีคุณค่าและโตพอ

6. มองหาข้อดีของงานที่ทำ ในวันที่รู้สึกเหนื่อย เบื่อท้อ วันที่อาชีพในฝันกลายเป็นงานต้องทำ ขอให้มองหาข้อดีของมันให้เจอ สำหรับคุณอาทิวราห์ คือ การมีเพื่อนร่วมทางในอาชีพและได้เห็นรอยยิ้มของแฟนเพลง

7. ให้ความสำคัญกับคนรอบข้างและครอบครัว บางทีเราอาจอยากเดินเร็ว แต่อย่าลืมหันมามองคนรอบข้างด้วย เพราะคนรอบข้างและครอบครัวสำคัญที่สุด

8. หมั่นรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง ตูนใช้คำสอนจำฝังใจจากผู้บริหารแกรมมี่ในวันที่เขาป่วย เตือนใจตนเองเสมอว่า “คนเราก็เหมือนเลข 1 มีพลังที่จะทำ 0 (ความสำเร็จ ความสุข เงินทอง ฯลฯ) ต่อท้ายเพิ่มอีกกี่ตัวก็ได้ แต่ถ้าวันใด 1 ล้มลง ถึงแม้ 0 จะตามมาอีกกี่ตัวก็ไม่มีความหมาย เพราะฉะนั้นอย่าลืมดูแลรักษาเลข 1 หรือร่างกายเราให้ดี”

ที่สำคัญต้องมีความอดทนในการทำในสิ่งที่ตนเองรัก ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร ไม่ถอดใจง่ายๆ และอย่าลืมที่จะดูแลคนรอบข้าง และดูแลสุขภาพร่างกายของตนเอง ในความคิดผม เรามีความสุขมากกับระหว่างวันที่เราได้ทำ ทุกข์บ้าง ท้อบ้าง มีปัญหาให้แก้บ้าง สนุกกับมัน ผมว่าถ้าใครเจอสิ่งที่ชอบแล้ว จะเป็นเรื่องที่ดีที่สุดเลยที่เราจะรู้สึกสนุกกับมันไปได้ตลอดชีวิต

            การทำงานที่ผ่านมาทุกเรื่อง ผมคงต้องบอกว่า มีความหมายเหมือนชื่อวง คือ บอดี้สแลม (Body Slam) หมายถึง การทำงานอย่างเต็มที่แบบทุ่มสุดตัว ส่วนโปรเจคด้านการวิ่ง ถ้ามันเป็นแรงบันดาลใจให้คนออกกำลังกายได้ ดูแลสุขภาพตัวเองได้อย่างถูกต้องเหมาะสม ผมเชื่ออย่างยิ่งว่า มันจะเป็นการแก้ปัญหาด้านการจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ยังขาดแคลนและช่วยเหลือโรงพยาบาลได้อย่างยั่งยืน และผมคิดปวารณาตัวเองว่าอยากจะทำแบบนี้ไปตลอดชีวิต

 

4. ความสำเร็จในชีวิตการทำงาน

คุณตูนเป็นนักร้องนำและนักแต่งเพลงของวงบอดี้ สแลม ซึ่งวงบอดี้สแลมได้ออกอัลบั้มแรก ในปี พ.ศ.2545 ชื่อบอดี้สแลม และอัลบั้มที่ 2 ชื่อ Drive ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก สร้างชื่อเสียงให้กับคุณตูน จนกลายมาเป็นศิลปินร็อคแถวหน้าของเมืองไทยจนถึงปัจจุบัน และยังเป็นไอดอลให้กับเด็กรุ่นใหม่ที่เล่นดนตรีอยากเป็น ตูน บอดี้สแลมในเจเนอเรชั่นของเขา

 

5. ทรรศนะต่อวงการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ความเจริญก้าวหน้าด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนั้นมีประโยชน์ต่อมนุษย์มาก โดยเฉพาะในด้านการแพทย์ หากมีความก้าวหน้ามากๆ ก็สามารถช่วยต่อลมหายใจให้กับคนที่คุณรักให้อยู่กับเราได้นานๆ 

 

6. กิจการอันเป็นคุณประโยชน์เพื่อสังคม สาธารณกุศล

คุณตูนเป็นผู้เสียสละและอุทิศตนเพื่อสังคม โดยทุ่มเทแรงกายและแรงใจหาเงินช่วยเหลือโรงพยาบาลมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2559 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน สาเหตุที่คุณตูนเลือกกิจกรรมวิ่งเพราะเป็นความถนัดส่วนตัว และเพื่อบอกต่อรวมถึงสนับสนุนให้คนไทยหันมาดูแลสุขภาพกันด้วย คุณตูนไม่ได้วิ่งแบบรีบเร่ง เพื่อเอาโล่รางวัล หรือเพื่อทำสถิติ แต่ใช้การวิ่งเป็นเครื่องมือในการสื่อสารและประชาสัมพันธ์ ทั้งหาเงินบริจาคให้โรงพยาบาล และยังได้บอกเล่าถึงปัญหาด้านสาธารณสุขของประเทศไทยซึ่งมีอยู่จริง และอยากบอกต่อให้คนไทยหันไปช่วยเหลือคนหรือพื้นที่ใกล้ๆตัว ในชุมชน ในจังหวัดของตนเองด้วย

·  โครงการ "ก้าวคนละก้าวเพื่อโรงพยาบาลบางสะพาน" ในปี พ.ศ. 2559

ตอนแรกคุณหมอที่โรงพยาบาลบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ชักชวนให้คุณตูนไปร่วมวิ่งการกุศล แต่พอคุณตูนได้ไปรับฟังไปดูความต้องการของโรงพยาบาลบางสะพาน ซึ่งขาดแคลนเครื่องมือแพทย์เป็นจำนวนมาก เช่น ตู้อบเด็กแรกเกิดไม่พอ ต้องรอคิวนานมากเพราะเป็นโรงพยาบาลที่อยู่ห่างไกลตัวจังหวัด กรณีที่มีผู้ป่วยถ้าถูกส่งต่อ ต้องใช้ระยะทางไกลมากกว่าจะถึงโรงพยาบาลใหญ่ เกือบ 100 กิโลเมตร ถ้าไม่ส่งผู้ป่วยไปอำเภอหัวหินก็ต้องไปที่จังหวัดชุมพร ซึ่งตอนนั้นคุณตูนจะหาเงินช่วยเอง เพราะตัวคุณตูนเองก็ไปสร้างบ้านพักไว้ที่บางสะพาน โดยคุณตูนคิดจะจัดวิ่งมาราธอน แต่พอปรึกษาผู้รู้หลายท่าน ซึ่งบอกว่าต้องใช้เงินเยอะ ประมาณแปดแสนถึงหนึ่งล้านบาท เมื่อหักค่าใช้จ่ายแล้ว เงินแทบจะไม่เหลือพอที่จะซื้อเครื่องมือแพทย์ที่ราคาสูงถึงหลักแสนหลักล้านต่อชิ้น คุณตูนเลยมีความคิดว่าจะลงวิ่งคนเดียวจากกรุงเทพฯไปบางสะพาน เป็นระยะทาง 400 กิโลเมตรแทน เพราะคุณตูนเคยลงแข่งวิ่งเป็นประจำอยู่แล้ว รวมถึงไตรกีฬาก็เคยลงแข่งมาแล้ว

 ดังนั้น คุณตูนจึงวางแผนจะจัดงานวิ่งเล็กๆเงียบๆ แต่คนรอบตัวและผู้ใหญ่ที่ทราบเรื่องก็บอกว่า หากจะจัดวิ่งทั้งทีก็ควรจัดเต็มๆไปเลย จะได้มีสปอนเซอร์มาร่วมสนับสนุน นอกจากนี้ ยังได้ชวนเซเลบบริตี้ นักร้อง นักดนตรี คนดังมีชื่อเสียง ไปร่วมวิ่งระยะทาง 400 กิโลเมตรด้วย แต่ไม่ได้วิ่งรวดเดียว แบ่งเป็น 9 วัน วันละ 40 กว่าๆกิโลเมตร แบ่งเป็น 4 เซต เริ่มประมาณตีสี่ครึ่ง วิ่งจบพักครึ่งชั่วโมงวิ่งเซ็ตสองและหยุด ระหว่างทางวิ่ง คุณตูนก็ไปมอบทุนการศึกษาให้กับโรงเรียนที่ด้อยโอกาสด้วย ตอนเย็นวิ่งอีก 2 เซต 40 กิโลเมตร เหมือนวิ่งมาราธอนทุกวัน เท่ากับวิ่งรอบสนามมาตรฐาน วันละ 100 รอบ

 เหตุที่ใช้ตัวเลข 400 กิโลเมตร มันจะช่วยดึงดูดให้คนเอาใจช่วย แล้วการวิ่งก็มีการวางแผนอย่างดีมีทีมแพทย์ กายภาพดูแล ไปตรวจร่างกายแล้วมีทีมดูแลตอนวิ่ง คอยประกบตลอด พร้อมมีรถพยาบาลวิ่งตามไปด้วย ก่อนการเริ่มวิ่ง ก้าวคนละก้าว คุณตูนต้องซ้อมวิ่งวันละ 21 กิโลเมตร ตลอดทั้งเดือนวิ่งไปทั้งหมดราว 300 กว่ากิโลเมตรของการฝึกซ้อม ซึ่งต้องใช้ความทุ่มเทและเสียสละเป็นอย่างมาก ผลของการวิ่งมาราธอนการกุศลของโครงการ "ก้าวคนละก้าวเพื่อโรงพยาบาลบางสะพาน"  ระหว่างวันที่ 1-10 ธันวาคม 2559 สามารถระดมทุนจากคนไทยทั่วประเทศได้ถึง 85 ล้านบาท จากระยะทางวิ่ง 400 กม. ในเวลา 10 วัน

 

·        โครงการ "ก้าวคนละก้าวเพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ

 ปัญหาด้านสาธารณสุขของประเทศไทยไม่ได้หยุดอยู่ที่ โรงพยาบาลบางสะพาน ยังมีอีกหลายโรงพยาบาลที่เดือดร้อนและต้องการความช่วยเหลือเพื่อเพิ่มศักยภาพในการรักษาคนไข้ให้เพียงพอต่อความความต้องการที่มากขึ้นทุกวัน จึงทำให้มีเสียงเรียกร้องขอความช่วยเหลือส่งมาถึงคุณตูน บอดี้สแลม และทีมงาน “ก้าวคนละก้าว” อย่างไม่ขาดสาย คุณตูนจึงเริ่มนำข้อมูลที่ได้จากกิจกรรม “ก้าวคนละก้าว” ครั้งที่แล้วมาวิเคราะห์ และพบว่าหนึ่งในข้อมูลที่น่าสนใจคือ “โรงพยาบาลศูนย์” ซึ่งเป็นเป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ตามจุดยุทธศาสตร์ของกระทรวงสาธารณสุขทั่วประเทศ ซึ่งต้องรับหน้าที่เป็น “ศูนย์กลางการรักษาให้จังหวัดใกล้เคียง” ในการส่งเคสการรักษาที่ยุ่งยากซับซ้อนมาให้ ซึ่งคุณตูนเชื่อว่าการระดมทุนเพื่อมอบให้โรงพยาบาลศูนย์ต่าง ๆ ทั่วประเทศจะเป็นวิธีการบริจาคที่สามารถกระจายความช่วยเหลือได้กว้างที่สุด

 คุณตูนจึงเดินทางไปกระทรวงสาธารณสุข โดยได้เข้าพบ นายแพทย์ โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เพื่อปรึกษาถึงข้อมูลและความเป็นไปได้ในการทำกิจกรรมวิ่งระดม “ก้าว” ครั้งใหม่และได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง นั่นคือรายชื่อของโรงพยาบาลศูนย์ที่ยังต้องการความช่วยเหลือเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาคนไข้ ต่อจากนั้น คุณตูนก็ได้ออกเดินทางไปเยี่ยมโรงพยาบาลประจำจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศไทย ตั้งแต่ภาคใต้จรดภาคเหนือเพื่อรับรู้ถึงความเดือดร้อนของโรงพยาบาลต่างๆ ด้วยตนเอง จนเกิดเป็นโครงการ “ก้าวคนละก้าวเพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ” ขึ้น โดยมีรายชื่อโรงพยาบาลที่จะได้รับการช่วยเหลือในการซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ให้จำนวน 11 โรงพยาบาล ดังนี้

1.     โรงพยาบาลยะลา                    

2.     โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี

3.     โรงพยาบาลศูนย์ราชบุรี            

4.     โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช จ.สุพรรณบุรี

5.     โรงพยาบาลสระบุรี     

6.     โรงพยาบาลขอนแก่น

7.     โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรี

8.     โรงพยาบาลนครพิงค์ จ.เชียงใหม่

9.     โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์           

10.  โรงพยาบาลน่าน (ไม่ใช่โรงพยาบาลศูนย์แต่อยู่ในพื้นที่พิเศษห่างไกลจากตัวเมือง)

11. โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า

และด้วยจำนวนโรงพยาบาลที่เพิ่มมากขึ้น เงินที่ต้องการจึงต้องมากขึ้นเช่นกัน กิจกรรมการวิ่งเพื่อระดมทุนครั้งนี้จึงถูกออกแบบให้มีระยะทางไกลขึ้น นานขึ้น ซึ่งจะเป็นการวิ่งที่ไกลที่สุดในชีวิตของคุณตูน บอดี้สแลม เริ่มต้นจากอำเภอเบตง จังหวัดยะลา และสิ้นสุดที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย รวมระยะทาง 2,191 กิโลเมตร ซึ่งควบคุมดูแลการวิ่งโดยผู้เชี่ยวชาญและคณะแพทย์ที่จะตรวจเช็คสภาพร่างกายของคุณตูนทุกวันเพื่อความปลอดภัย การวิ่งจะเริ่มต้นวันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 ที่อำเภอเบตง จังหวัดยะลา และวิ่งติดต่อกัน 4 วันพัก 1 วัน และจะสิ้นสุดที่อำเภอแม่สายจังหวัดเชียงราย ในวันที่ 25 ธันวาคม 2560 รวมระยะเวลา 55 วัน จำนวนเงินบริจาคที่คุณตูน บอดี้สแลม และทีมงานก้าวคนละก้าว ตั้งเป้าไว้คือ 700 ล้านบาท โดยคุณตูน มีความเชื่อว่า ถ้าคนไทย 70 ล้านคน บริจาคให้กับโครงการเพียงคนละ 10 บาท เงิน 700 ล้านบาทก็ไม่ไกลเกินเอื้อม และทุก ๆ คนในประเทศไทยสามารถมีส่วนร่วมช่วยเหลือพี่น้องชาวไทยของเรากันเองได้ง่าย ๆ และทำได้จริง เห็นผลจริง

 การวิ่งครั้งนี้ ได้สร้างประวัติศาสตร์การวิ่งมาราธอนการกุศลให้กับเมืองไทย  โดยคุณตูนและทีมงาน ได้วิ่งผ่าน 20 จังหวัด ได้แก่ ยะลา / ปัตตานี / สงขลา / นครศรีธรรมราช / สุราษฎร์ธานี / ชุมพร / ประจวบคีรีขันธ์ / เพชรบุรี / ราชบุรี / นครปฐม / กรุงเทพฯ / นนทบุรี / สุพรรณบุรี / ชัยนาท / นครสวรรค์ / กำแพงเพชร / ตาก / ลำปาง / พะเยา / เชียงราย ทุกวันที่คุณตูนวิ่งผ่านแต่ละจังหวัด ได้เกิดภาพประทับใจ และเรื่องราวที่เป็นคามทรงจำต่างๆมากมาย ซึ่งการวิ่งของคุณตูนครั้งนี้ไม่ได้เพียงหาเงินบริจาคให้กับโรงพยาบาลเท่านั้น แต่ได้สร้างความสามัคคี ทำให้ทุกๆพื้นที่มีความปรองดองร่วมด้วยช่วยกัน คุณตูนได้ทำให้เห็นว่าคนไทยไม่ทิ้งกันจริงๆ  และได้รับผลตอบรับจากประชาชนชาวไทยอย่างมากมายล้นหลาม สามารถระดมเงินบริจาคได้จำนวน 1,148 ล้านบาท รวมระยะทาง 2,215.4 กิโลเมตร ใช้เวลาวิ่ง 55 วัน  

·       โครงการ 'ลอง RUN 2018'  ในปี พ.ศ. 2561 โครงการก้าวคนละก้าว ได้ร่วมกับบริษัท คิง เพาเวอร์ จำกัด  ชวนคนไทยร่วมวิ่งออกกำลังกายกับคุณตูน บอดี้สแลม ระยะทาง 5 กม. ในกิจกรรมสุดพิเศษ 'ลอง RUN 2018' เพื่อนำเงินบริจาคมอบให้กับอาคารนวมินทรบพิตร 84 พรรษา โรงพยาบาลศิริราช เพื่อนำไปจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ให้ผู้ป่วยด้อยโอกาสต่อไป  โดยกิจกรรม 'ลอง RUN 2018' จะจัดขึ้นทั้งหมด 4 จังหวัด ได้แก่ สนามกีฬาแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร มหาวิทยาลัยขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น, มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยบูรพา จังหวัดชลบุรี

 

·      จากการทำกิจกรรมก้าวคนละก้าว ในปี พ.ศ. 2559 – 2561 โครงการ “ก้าว” ของคุณตูน บอดี้สแลม สามารถระดมทุนเพื่อช่วยเหลือโรงพยาบาลได้มากกว่า 1,600 ล้านบาท ทำให้ “ก้าว” ได้รับการร้องขอความช่วยเหลือจากองค์กรและหน่วยงานด้านสาธารณสุขอย่างมากมาย จึงทำให้คณะทำงานมีแนวคิดหลัก 2 ประการด้วยกัน คือ

    1. ก้าวจะต้องเปลี่ยนตัวเองให้อยู่ในลักษณะขององค์กรเพื่อการช่วยเหลือที่ยั่งยืน ซึ่งโครงการก้าวได้จดทะเบียนเป็น “มูลนิธิก้าวคนละก้าว” แล้ว ตั้งแต่วันที่ 8 พฤษภาคม 2562

     2. นำเสนอแนวคิดพร้อมทั้งสร้างกิจกรรมที่สนับสนุนให้คนไทยหันมาดูแลสุขภาพ ของตัวเองให้มากขึ้นผ่านการจัดกิจกรรมวิ่งทั่วประเทศ เพราะเราเชื่อว่า สุขภาพที่ดีคือรากฐานของคุณภาพชีวิตที่ดี

·  ในปี 2562-2563 ก้าวคนละก้าว ยังคงมุ่งเน้นการช่วยเหลือโรงพยาบาลเหมือนเดิม และจะเพิ่มเติมการช่วยเหลือไปถึงโรงพยาบาลชุมชน หรือโรงพยาบาลขนาดเล็ก เนื่องจากเป็นองค์กรที่มีความใกล้ชิดกับชุมชนมากที่สุด เป็นประตูด่านแรกที่ประชาชนจะเข้ารับการบริการ หากโรงพยาบาลชุมชนสามารถพัฒนาศักยภาพในการรักษา ก็จะสามารถแบ่งเบาภาระให้กับโรงพยาบาลประจำจังหวัดหรือโรงพยาบาลศูนย์ได้

·       กิจกรรมในปี 2562 นี้ จะใช้ชื่อว่า “ก้าวคนละก้าว ก้าวต่อไปด้วยพลังเล็กๆ” ซึ่งเป็นการวิ่งระยะยาวและรับบริจาค ในลักษณะการวิ่งผลัด นำโดยคุณตูน  ทีมก้าว ดารา คนดัง ที่จะมาช่วยกันวิ่งต่อเนื่องกัน จากจุดเริ่มต้น ผลัดกัน คนละ 10 กิโลเมตร จนถึงเส้นชัย แบ่งการจัดกิจกรรมวิ่งเป็น 5 ภาคใหญ่ ได้แก่ 1. ภาคอีสาน 2. ภาคใต้ 3. ภาคเหนือ 4. ภาคตะวันออก และ 5. ภาคกลาง และมีจำนวนโรงพยาบาลที่ช่วยเหลือ 7-8 โรงต่อการจัดกิจกรรมวิ่ง 1 ครั้ง

โดยกิจกรรมครั้งแรก จะจัดขึ้นที่ภาคอีสานในวันเสาร์และอาทิตย์ที่ 15-16 มิถุนายน 2562 จาก จ.หนองคาย ไปถึง จ. ขอนแก่น รวมระยะทางวิ่งทั้งหมด 187 กิโลเมตร โดยมีดาราคนดังมาร่วมวิ่งมากมาย โดยการวิ่งในช่วง 11 กิโลเมตรสุดท้าย จากศาลากลางจังหวัดขอนแก่น ไปจนถึงสนามกีฬาจังหวัดขอนแก่น คุณตูนขอเชิญชวนประชนชนทุกๆท่านมารวมพลังเล็กๆ ด้วยการมาวิ่งด้วยกัน เพื่อสร้างสถิติ “การวิ่งมินิมาราธอนที่มีนักวิ่งมากที่สุดในภาคอีสาน” รายได้ไม่หักค่าใช้จ่ายมอบให้แก่ 8 โรงพยาบาลชุมชนในภาคอีสาน สำหรับรายชื่อโรงพยาบาลชุมชนในภาคอีสานที่จะรวบรวมเงินบริจาคให้มีดังนี้

1.     โรงพยาบาลบึงกาฬ จ.บึงกาฬ

2.     โรงพยาบาลสระใคร จ.หนองคาย

3.     โรงพยาบาลสังคม จ.หนองคาย

4.      โรงพยาบาลนาวัง จ.หนองบัวลำภู

5.     โรงพยาบาลหนองหาน จ.อุดรธานี

6.     โรงพยาบาลกุมภวาปี จ.อุดรธานี

7.     โรงพยาบาลพล จ.ขอนแก่น

8.     โรงพยาบาลขอนแก่น2 จ.ขอนแก่น

 การวิ่งของคุณตูน นอกเหนือไปจากเงินบริจาคแล้วเขาคาดหวังว่าอยากเห็นคนไทยทุกคนออกกำลังกายกันมากขึ้น” เพราะเมื่อทุกคนมีสุขภาพที่ดีไม่เจ็บป่วย ก็จะเป็นการลดการใช้บริการสถานพยาบาลต่างๆไปในตัวอีกด้วย และส่งกำลังใจไปให้แก่แพทย์และพยาบาลผู้เสียสละทุกท่านที่กำลังทำหน้าที่อย่างเข้มแข็งในโรงพยาบาลต่างๆทั่วเมืองไทย

 

7. ความภาคภูมิใจและรางวัลเกียรติยศที่ได้รับ

·         ลูกกตัญญูดีเด่นเนื่องในวันแม่แห่งชาติ พ.ศ. 2549

·         รางวัลพระราชทานบันเทิงเทิดธรรม จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในงาน ไนน์เอ็นเตอร์เทน อวอร์ด 2018

8. ประวัติการทำงาน

            ประวัติการทำงาน

1.     คุณอาทิวราห์ เป็นสมาชิกวงละอ่อนกับเพื่อนนักเรียนรวม 6 คน ของโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย เริ่มเข้าวงการดนตรีจากการได้รับรางวัลชนะเลิศบนเวทีการประกวด ฮอตเวฟมิวสิคอวอร์ดครั้งที่ 1 (ปี พ.ศ. 2539) และเซ็นสัญญากับค่ายเพลงมิวสิกบั๊กส์ จนได้ออกอัลบั้มชุดที่ 1 (ละอ่อน) ในปี พ.ศ. 2540 ต่อมาในปี พ.ศ. 2541 ได้ลาออกจากวงเพื่อไปเรียนต่อในระดับอุดมศึกษา

2.     หลังจากจบปริญญาตรี ได้เริ่มงานเป็นพนักงานต้อนรับสายการบินกัมพูชาแอร์ไลน์ ประมาณ 2 ปี

3.     ร่วมกับคุณธนดล ช้างเสวก และคุณรัฐพล พรรณเชษฐ์ ก่อตั้งวงใหม่ขึ้นมาในปี พ.ศ. 2545 เปลี่ยนแนวเพลงมาเป็นร็อค ใช้ชื่อวงว่า บอดี้สแลม (Body Slam) ซึ่งมีความหมายถึง การทำงานเพลงอย่างเต็มที่แบบทุ่มสุดตัว โดยวงบอดี้สแลมได้ออกอัลบั้มแรก ชื่อบอดี้สแลม และอัลบั้มที่ 2 ชื่อ Drive ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก

4.     ในปี พ.ศ. 2547 วงบอดี้สแลมได้ออกจากค่ายเพลงมิวสิคบั๊กส์ และย้ายมาอยู่ค่ายจีนี่ เรคคอร์ด ในเครือจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จนถึงปัจจุบัน

5.     คุณตูนยังมีงานผลงานภาพยนตร์ 3 เรื่อง และมีผลงานด้านโฆษณาอีกมากมาย

6.     คุณตูนมีความสนใจด้านการกีฬา โดยได้เข้าร่วมแข่งขัน ดังนี้

·       พ.ศ. 2554 และ 2555 ได้เข้าร่วมการแข่งขันรายการเทเบิลเทนนิสชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย

·       พ.ศ. 2557 ได้เข้าร่วมการแข่งขันรายการเทเบิลเทนนิสในนามจังหวัดสุพรรณบุรี ในการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 42 ที่จังหวัดสุพรรณบุรี

·       เคยได้รับเชิญให้เป็นทูตกีฬาเทเบิลเทนนิส จากสมาคมเทเบิลเทนนิสแห่งประเทศไทย

·       พ.ศ. 2558 ได้เข้าร่วมการแข่งขันไตรกีฬานานาชาติ 2558 ที่จัดขึ้น ณ จังหวัดชลบุรี ซึ่งประกอบด้วย กีฬาว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน และวิ่ง ซึ่งสร้างความสนใจให้กับผู้เข้าแข่งขันเป็นจำนวนมาก นับว่าเป็นแบบอย่างที่ดีให้เยาวชนได้หันมาเล่นกีฬากันมากขึ้น

·       ความสนใจในกีฬาฟุตบอล การปั่นจักรยาน รวมถึงการวิ่งที่ไม่เพียงแต่เพื่อสุขภาพ หรือความสนุกสนานของคุณตูนเท่านั้น  แต่กลายมาเป็นจุดเชื่อมโยงสู่งานสังคม โดยเป็นหัวหน้าโครงการ ก้าวคนละก้าว จนถึงปัจจุบัน

มูลนิธิสภาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (มสวท.)

กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

สถานที่ติดต่อ :

288/52 อาคารมูลนิธิ มสวท. ถนนพหลโยธิน แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร 10220

Tel. +66(0) 2552-5200 Fax. +66(0) 2551-4422 Email : thaifstt@gmail.com 

Copyright © 2008-2015 หากมีปัญหาในการรับชมกรุณาติดต่อ Webmaster ที่ admin@thaifstt.org