เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2564  ดร.ประสิทธิ์ ทีฆพุฒิ ประธานมูลนิธิ และทีมจิตอาสา ได้เดินทางไปวัดจากแดง ต.ทรงคนอง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ เพื่อนำขยะขวดพลาสติกใส PET ถุงพลาสติกใส แก้วกาแฟ หลอดดูดน้ำพลาสติก กล่องใส่ขนมและอาหารแบบเดลิเวอรี่ กล่องนม UHT โฟมห่อผลไม้  ที่ผ่านการใช้งานแล้ว นำมาทำความสะอาดเบื้องต้น แล้วรวบรวมนำไปบริจาค พร้อมได้ร่วมบริจาคเงินทำบุญกับทางวัดจากแดง ซึ่งปัจจุบัน (ในช่วงสถานการณ์โควิด-19) มีพระภิกษุบวชเรียน ประมาณ 51 รูป  วัดจากแดง เป็นสถานที่ที่มีความพร้อม (เป็นศูนย์การเรียนรู้สิ่งแวดล้อม การคัดแยกขยะ การแปรรูปเศษอาหาร การทำปุ๋ยหมักชีวภาพ ฯลฯ)  ในการนำขยะพลาสติก โฟม กล่องนม UHT เหล่านี้ นำไปสู่กระบวนการรีไซเคิลที่เหมาะสม เป็นการช่วยลดปัญหามลพิษต่อสิ่งแวดล้อม ลดปริมาณการทำลายระบบนิเวศ และยังช่วยลดภาวะโลกร้อนได้เป็นอย่างดี  และยังเป็นการสร้างงานให้กับชุมชนอีกด้วย

 

 

 

 

 

 ขยะพลาสติกที่นำไปบริจาคครั้งนี้ ส่วนใหญ่เป็น ขวดพลาสติกใสที่ใช้บรรจุน้ำดื่ม หรือที่เรานิยมเรียกกันว่า ขวด PET (Polyethylene Terephthalate : โพลีเอทิลีน เทเรฟทาเลต) ซึ่งเป็นพลาสติกที่เหมาะสำหรับนำไป Recycle เพื่อทอเป็น ผ้าไตรจีวร หรือ ผ้าบังสุกุล โดยใช้นวัตกรรมผสม ซิงค์ นาโน (Zinc Nano) ที่สามารถป้องกันแบคทีเรีย ลดกลิ่นอับ มีความนุ่ม ระบายอากาศได้ดี เหมาะสมกับสภาพอากาศร้อนอบอ้าวในเมืองไทย กระบวนการทำขยะพลาสติกให้กลายเป็น “จีวรรีไซเคิล” 1 ผืน จะต้องใช้ขยะประเภทขวดพลาสติก PET จำนวน 15 ขวด และถ้าเป็นผลิตเป็นผ้าไตรจีวร 1 ชุด จะต้องใช้ขวด PET จำนวน 60 ขวด โดยใช้เทคโนโลยี Upcycling ซึ่งเป็นนวัตกรรมการแปรรูปขยะให้เป็นเส้นใยรีไซเคิล แล้วจึงถักทอผสมผสานกับเส้นใย Polyester Rayon เส้นใยฝ้าย และเส้นใย โพลีเอสเตอร์ ซิงค์ แอนตี้แบคทีเรีย (Polyester Zinc Antibacterial) ที่สามารถป้องกันแบคทีเรีย ลดกลิ่นอับ มีความนุ่ม ระบายอากาศได้ดี เหมาะสมกับสภาพอากาศร้อนอบอ้าวในเมืองไทย

 

ถุงพลาสติกใส แก้วกาแฟ หลอดดูดน้ำ ฝาขวดน้ำพลาสติก ฉลากพลาสติก ถุงก๊อบแก๊บ กล่องใส่ขนมและอาหารแบบเดลิเวอรี่ ที่ผ่านการใช้งานแล้ว สามารถนำไปใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับรถบรรทุก และเครื่องจักรกลที่ใช้ในการเกษตร

 

โฟมที่ใช้ห่อหุ้มผลไม้ หรือกล่องโฟมใส่ขนมและอาหาร สามารถนำไปใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตวัสดุก่อสร้างได้ เช่น ก้อนอิฐ โต๊ะ เก้าอี้ เป็นต้น

 

กล่องนม UHT หรือกล่องใส่กะทิ หรือกล่องใส่นมเปรี้ยว ก็สามารถนำไปใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตเป็นฝากั้นห้อง ทำกุฏิพระจากกล่องนม ที่เรียกว่า กุฏิรีไซเคิล ที่ช่วยลดอุณหภูมิห้องสำหรับประเทศไทยที่มีอากาศร้อนอบอ้าว

การดำเนินโครงการร่วมใจรักษ์สิ่งแวดล้อมครั้งที่ 6 นี้ เป็นโครงการสืบเนื่องที่มูลนิธิ มสวท. ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ต้นปี พ.ศ. 2563 เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งประเทศไทยยังอยู่ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ระลอกที่ 4 องค์กรและหน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชนหลายแห่งยังใช้นโยบายทำงานจากที่บ้าน (work from home) รวมถึงนักเรียน นิสิต นักศึกษา ที่เรียนหนังสือผ่านออนไลน์ เพื่อลดการแพร่เชื้อ โควิด 19 โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลที่มียอดผู้ติดเชื้อจำนวนมากกว่าพื้นที่อื่นๆในประเทศ พฤติกรรมผู้บริโภคของประชาชนส่วนใหญ่ นิยมสั่งซื้ออาหารและเครื่องดื่มแบบเดลิเวอรี่กันเป็นจำนวนมาก ซึ่งทำให้เกิดปัญหาขยะพลาสติกและโฟมเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว ดังนั้น ดร.ประสิทธิ์ และทีมงานจิตอาสา จึงได้ร่วมกันดำเนินการเก็บ รวบรวม และคัดแยกขยะพลาสติกและกล่องโฟมที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน เพื่อนำไปบริจาคที่วัดจากแดง จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อเข้าสู่กระบวนกำจัดขยะเหล่านี้ให้เป็นผลผลิตใหม่ ที่นำกลับมาให้ใช้งานได้ อีกทั้งยังเป็นการสร้างงานให้กับคนยากจนและด้อยโอกาสที่วัดจากแดงได้ดูแล ถือว่าเป็นวิธีการกำจัดขยะที่ถูกสุขลักษณะและเกิดประโยชน์สูงสุดทั้งต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และประเทศชาติ ซึ่งหน่วยงานหรือองค์กรต่างๆ สามารถนำวิธีการนี้ไปเป็นตัวอย่างในการดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมต่อไป

 

 

ดร.ประสิทธิ์ ทีฆพุฒิ ประธานมูลนิธิ มสวท. และคณะ ได้เดินทางไปเข้าร่วมพิธีวางพานพุ่มและถวายราชสักการะเพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร  มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในฐานะทรงเป็น “พระบิดาแห่งเทคโนโลยีของไทย” เนื่องใน “วันเทคโนโลยีของไทย” ประจำปี 2564 โดยมี ศาสตราจารย์ (พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นประธานในพิธีวางพุ่มดอกไม้และถวายราชสักการะ พร้อมด้วย ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษาฯ, ผศ.ดร.ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง เลขานุการรัฐมนตรีว่าการและโฆษกกระทรวงการอุดมศึกษาฯ, ดร.พัชรินรุจา จันทโรนานนท์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษาฯ, ดร.ดนุช ตันเทอดทิตย์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการอุดมศึกษาฯ, ศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล รองปลัดกระทรวงการอุดมศึกษาฯ, รศ.ดร.พาสิทธิ์ หล่อธีรพงศ์ รองปลัดกระทรวงการอุดมศึกษาฯ, นางสาวสุณีย์ เลิศเพียรธรรม ผู้ตรวจราชการกระทรวงการอุดมศึกษาฯ, คณะผู้บริหาร อว. ผู้แทนหน่วยงานในสังกัด ผู้แทนมหาวิทยาลัย ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ ร่วมวางพานพุ่มและถวายราชสักการะฯ ณ ลานพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหามงกุฎ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระสยามเทวมหามงกุฎวิทยามหาราช (รัชกาลที่ 4) สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ถนนพระรามที่ 6 เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร

 

 

ดร.ประสิทธิ์ ทีฆพุฒิ ประธานมูลนิธิ มสวท.และคณะ ได้เดินทางไปเข้าร่วมพิธีทำบุญเป็นเจ้าภาพถวายภัตตาหารเพล ยารักษาโรค แอลกอฮอล์ และปัจจัยแด่พระภิกษุ สามเณร ณ วัดตากฟ้า พระอารามหลวง ต.ตากฟ้า อ.ตากฟ้า จ.นครสวรรค์ จำนวน 300 กว่ารูป เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2564 โดยมีท่านเจ้าคุณพระเทพปัญญาภรณ์ รองเจ้าคณะภาค 4 เจ้าอาวาสวัดตากฟ้า พระอารามหลวง เป็นประธานในพิธีสงฆ์

จากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ของประเทศไทยในปี พ.ศ. 2564 ยังคงเป็นปัญหาระดับประเทศที่ทุกภาคส่วนให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก  และในช่วงเดือนกันยายน 2564 นี้ ทางเจ้าอาวาสวัดตากฟ้าได้มีเมตตาจิตต่อประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่อำเภอตากฟ้าและใกล้เคียง จึงได้จัดสถานที่ของวัดให้เป็นจุดรองรับการฉีดวัคซีนของโรงพยาบาลตากฟ้าให้กับประชาชนจำนวน 800 คน ในวันเวลาราชการอีกด้วย

 

ดร.ประสิทธิ์ ทีฆพุฒิ ประธานมูลนิธิ และทีมจิตอาสา ได้เดินทางไปวัดจากแดง ต.ทรงคนอง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2564 เพื่อนำขยะขวดพลาสติกใส PET ถุงพลาสติกใสที่ใช้แล้ว  ไปบริจาคให้กับทางวัดจากแดงเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตจีวรนาโน และกล่องนม UHT นำไปใช้ผลิตเป็นฝากั้นห้อง ทำกุฏิพระจากกล่องนม กุฏิรีไซเคิล สำหรับพระวัดจากแดง พร้อมทั้งยังได้ร่วมบริจาคเงินทำบุญกับทางวัด ซึ่งปัจจุบัน (ในช่วงสถานการณ์โควิด-19) มีพระภิกษุบวชเรียน ประมาณ 51 รูป ซึ่งการบริจาคฯในครั้งนี้ดำเนินการภายใต้โครงการร่วมใจรักษ์สิ่งแวดล้อมครั้งที่ 5

 

การดำเนินโครงการร่วมใจรักษ์สิ่งแวดล้อมครั้งที่ 5 นี้ เป็นโครงการสืบเนื่องที่มูลนิธิ มสวท. ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ต้นปี พ.ศ. 2563 เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งประเทศไทยกำลังเข้าสู่ช่วงการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในระลอกที่ 4 เนื่องจากเชื้อไวรัสกลายพันธุ์เพิ่มขึ้น ซึ่งรัฐบาลได้ประกาศขอความร่วมมือให้องค์กรและหน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชนให้ใช้นโยบายทำงานจากที่บ้าน (work from home) รวมถึงนักเรียน นิสิต นักศึกษา ก็ให้เรียนหนังสือผ่านออนไลน์ด้วยเช่นกัน เพื่อลดการแพร่เชื้อ โควิด 19 โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลที่มียอดผู้ติดเชื้อจำนวนมากกว่าพื้นที่อื่นๆในประเทศ ส่งผลให้พฤติกรรมผู้บริโภคในกรุงเทพมหานครเปลี่ยนแปลงไป โดยประชาชนส่วนใหญ่นิยมหันมาสั่งซื้ออาหารและเครื่องดื่มแบบเดลิเวอรี่กันเป็นจำนวนมาก ซึ่งทำให้เกิดปัญหาขยะพลาสติกและโฟมเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว ดังนั้น ดร.ประสิทธิ์ และทีมงานจิตอาสา จึงได้ร่วมกันดำเนินการเก็บ รวบรวม และคัดแยกขยะพลาสติกและกล่องโฟมที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน เพื่อนำไปบริจาคที่วัดจากแดง จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อเข้าสู่กระบวนกำจัดขยะเหล่านี้ให้เป็นผลผลิตใหม่ ที่นำกลับมาให้ใช้งานได้ อีกทั้งยังเป็นการสร้างงานให้กับคนยากจนและด้อยโอกาสที่วัดจากแดงได้ดูแล ถือว่าเป็นวิธีการกำจัดขยะที่ถูกสุขลักษณะและเกิดประโยชน์สูงสุดทั้งต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และประเทศชาติ ซึ่งหน่วยงานหรือองค์กรต่างๆ สามารถนำวิธีการนี้ไปเป็นตัวอย่างในการดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมต่อไป 

 

ขยะพลาสติกที่นำไปบริจาคครั้งนี้ ส่วนใหญ่เป็น ขวดพลาสติกใสที่ใช้บรรจุน้ำดื่ม หรือที่เรานิยมเรียกกันว่า ขวด PET (Polyethylene Terephthalate : โพลีเอทิลีน เทเรฟทาเลต) ซึ่งเป็นพลาสติกที่เหมาะสำหรับนำไป Recycle เพื่อทอเป็น ผ้าไตรจีวร หรือ ผ้าบังสุกุล โดยใช้นวัตกรรมผสม ซิงค์ นาโน (Zinc Nano) ที่สามารถป้องกันแบคทีเรีย ลดกลิ่นอับ มีความนุ่ม ระบายอากาศได้ดี เหมาะสมกับสภาพอากาศร้อนอบอ้าวในเมืองไทย กระบวนการทำขยะพลาสติกให้กลายเป็น “จีวรรีไซเคิล” 1 ผืน จะต้องใช้ขยะประเภทขวดพลาสติก PET จำนวน 15 ขวด และถ้าเป็นผลิตเป็นผ้าไตรจีวร 1 ชุด จะต้องใช้ขวด PET จำนวน 60 ขวด โดยใช้เทคโนโลยี Upcycling ซึ่งเป็นนวัตกรรมการแปรรูปขยะให้เป็นเส้นใยรีไซเคิล แล้วจึงถักทอผสมผสานกับเส้นใย Polyester Rayon เส้นใยฝ้าย และเส้นใย โพลีเอสเตอร์ ซิงค์ แอนตี้แบคทีเรีย (Polyester Zinc Antibacterial) ที่สามารถป้องกันแบคทีเรีย ลดกลิ่นอับ มีความนุ่ม ระบายอากาศได้ดี เหมาะสมกับสภาพอากาศร้อนอบอ้าวในเมืองไทย

 

 

 

 พลาสติก สามารถนำใช้ในชีวิตประจำวันของมนุษย์ได้หลากหลายประเภท หลากหลายประโยชน์มากมาย แต่ขยะพลาสติกนั้นใช้เวลายาวนานกว่า 450 ปี ในการย่อยสลาย ดังนั้น หากทุกคนช่วยกันคัดแยก และเก็บรวบรวมขยะพลาสติก แล้วส่งต่อไปยังสถานที่ที่มีความสามารถในการแปรรูปหรือนำขยะพลาสติกเหล่านี้กลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ได้อีก ย่อมเป็นการใช้ประโยชน์จากพลาสติกได้อย่างคุ้มค่า (เพราะทรัพยากรในโลกนี้มีอยู่จำกัด) เป็นการช่วยลดปัญหามลพิษต่อสิ่งแวดล้อม ลดปริมาณการทำลายระบบนิเวศ และยังช่วยลดภาวะโลกร้อนได้เป็นอย่างดี

ดร.ประสิทธิ์ ทีฆพุฒิ ประธานมูลนิธิ และทีมจิตอาสา ได้เดินทางไปวัดจากแดง ต.ทรงคนอง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2564 เพื่อนำขยะขวดพลาสติกใส PET ถุงพลาสติกใสที่ใช้แล้ว แก้วน้ำดื่มพลาสติก หลอดดูดกาแฟ กล่องนม ข้อน-ส้อม จาน โฟมใส่อาหาร ตาข่ายโฟมห่อผลไม้ ไปบริจาคให้กับทางวัดจากแดงเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตจีวรนาโน น้ำมันเชื้อเพลิง หลังคาและผนังบ้านจากกล่องนม อิฐมวลเบาและม้านั่งที่ทำจากวัสดุโฟม ฯลฯ และยังได้ร่วมบริจาคเงินทำบุญกับทางวัด ซึ่งปัจจุบันมีพระภิกษุบวชเรียน ประมาณ 60 รูป ซึ่งการบริจาคฯในครั้งนี้ดำเนินการภายใต้โครงการร่วมใจรักษ์สิ่งแวดล้อมครั้งที่ 4

  

 

วัดจากแดง สร้างประมาณปี พ.ศ. 2325 ชื่อ จากแดง สันนิษฐานว่า มาจากคำว่า จากแตน หมายถึง หมู่บ้านของประชาชนที่อพยพมาจากที่อยู่เดิมในอยุธยา ต่อมาเพี้ยนเสียงเป็น จากแดง มีปูชนียวัตถุโบราณที่สำคัญ ได้แก่ พระพุทธรูป หลวงพ่อหิน และ ธัมเมกขสถูป พระสมันตมหาปัฏฐานเจดีย์ ที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ที่มีความงดงดงามตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ปัจจุบัน วัดจากแดง นอกจากจะเป็นสถานที่จัดกิจกรรมทางพุทธศาสนาแล้ว ยังจัดให้มีสถานที่ปฏิบัติธรรม สำนักเรียนพระอภิธรรม (ภาษาบาลี เพื่อการศึกษาพระไตรปิฏก ที่วัดและทางออนไลน์) ให้กับพระภิกษุ สามเณร และประชาชนทั่วไป และยังมีศูนย์การเรียนรู้สิ่งแวดล้อมให้เยาวชนและประชาชนได้เข้าไปศึกษาอีกด้วย

 

 

ขยะพลาสติกที่นำไปบริจาคครั้งนี้ ส่วนใหญ่เป็น ขวดพลาสติกใสที่ใช้บรรจุน้ำดื่ม หรือที่เรานิยมเรียกกันว่า ขวด PET (Polyethylene Terephthalate : โพลีเอทิลีน เทเรฟทาเลต) ซึ่งเป็นพลาสติกที่เหมาะสำหรับนำไป Recycle เพื่อทอเป็น ผ้าไตรจีวร หรือ ผ้าบังสุกุล โดยใช้นวัตกรรมผสม ซิงค์ นาโน (Zinc Nano) ที่สามารถป้องกันแบคทีเรีย ลดกลิ่นอับ มีความนุ่ม ระบายอากาศได้ดี เหมาะสมกับสภาพอากาศร้อนอบอ้าวในเมืองไทย กระบวนการทำขยะพลาสติกให้กลายเป็น “จีวรรีไซเคิล” 1 ผืน จะต้องใช้ขยะประเภทขวดพลาสติก PET จำนวน 15 ขวด และถ้าเป็นผลิตเป็นผ้าไตรจีวร 1 ชุด จะต้องใช้ขวด PET จำนวน 60 ขวด โดยใช้เทคโนโลยี Upcycling ซึ่งเป็นนวัตกรรมการแปรรูปขยะให้เป็นเส้นใยรีไซเคิล แล้วจึงถักทอผสมผสานกับเส้นใย Polyester Rayon เส้นใยฝ้าย และเส้นใย โพลีเอสเตอร์ ซิงค์ แอนตี้แบคทีเรีย (Polyester Zinc Antibacterial) ที่สามารถป้องกันแบคทีเรีย ลดกลิ่นอับ มีความนุ่ม ระบายอากาศได้ดี เหมาะสมกับสภาพอากาศร้อนอบอ้าวในเมืองไทย

                                                               

นอกเหนือจากขยะขวด PET แล้ว ทีมงานจิตอาสายังได้รวบรวมขยะพลาสติกอื่นๆ ได้แก่ ถ้วยและขวดพลาสติกสีขุ่น ฝาขวดน้ำดื่ม ป้ายฉลากติดขวด ถุงพลาสติกใสที่ผ่านการใช้งานแล้ว ซึ่งขยะพลาสติกเหล่านีสามารถนำไปผลิตเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยกระบวนการไพโรไลซิส (Pyrolysis) ทำให้ขยะพลาสติกเหล่านี้ไม่เป็นขยะไร้ค่า สามารถนำกลับมาใช้เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงในกิจกรรมเผาศพในวัด หรือ นำไปใส่ในเครื่องจักรกลที่ใช้งานในด้านการเกษตร เป็นต้น

พลาสติก สามารถนำใช้ในชีวิตประจำวันของมนุษย์ได้หลากหลายประเภท หลากหลายประโยชน์มากมาย แต่ขยะพลาสติกนั้นใช้เวลายาวนานกว่า 450 ปี ในการย่อยสลาย ดังนั้น หากทุกคนช่วยกันคัดแยก และเก็บรวบรวมขยะพลาสติก แล้วส่งต่อไปยังสถานที่ที่มีความสามารถในการแปรรูปหรือนำขยะพลาสติกเหล่านี้กลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ได้อีก ย่อมเป็นการใช้ประโยชน์จากพลาสติกได้อย่างคุ้มค่า (เพราะทรัพยากรในโลกนี้มีอยู่จำกัด) เป็นการช่วยลดปัญหามลพิษต่อสิ่งแวดล้อม ลดปริมาณการทำลายระบบนิเวศ และยังช่วยลดภาวะโลกร้อนได้เป็นอย่างดี

การดำเนินโครงการร่วมใจรักษ์สิ่งแวดล้อมครั้งที่ 4 นี้ เป็นโครงการสืบเนื่องที่มูลนิธิ มสวท. ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ต้นปี พ.ศ. 2563 เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งประเทศไทยกำลังเข้าสู่ช่วงการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในระลอกที่ 3 รัฐบาลได้ขอความร่วมมือให้องค์กรและหน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชนให้ใช้นโยบายทำงานจากที่บ้าน (work from home) รวมถึงนักเรียน นิสิต นักศึกษา ก็ให้เรียนหนังสือผ่านออนไลน์ด้วยเช่นกัน เพื่อลดการแพร่เชื้อ โควิด 19 โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลที่มียอดผู้ติดเชื้อจำนวนมากกว่าพื้นที่อื่นๆในประเทศ ส่งผลให้พฤติกรรมผู้บริโภคในกรุงเทพมหานครเปลี่ยนแปลงไป โดยประชาชนส่วนใหญ่นิยมหันมาสั่งซื้ออาหารและเครื่องดื่มแบบเดลิเวอรี่กันเป็นจำนวนมาก ซึ่งทำให้เกิดปัญหาขยะพลาสติกและโฟมเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว ดังนั้น ดร.ประสิทธิ์ และทีมงานจิตอาสา จึงได้ร่วมกันดำเนินการเก็บ รวบรวม และคัดแยกขยะพลาสติกและกล่องโฟมที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน เพื่อนำไปบริจาคที่วัดจากแดง จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อเข้าสู่กระบวนกำจัดขยะเหล่านี้ให้เป็นผลผลิตใหม่ ที่นำกลับมาให้ใช้งานได้ อีกทั้งยังเป็นการสร้างงานให้กับคนยากจนและด้อยโอกาสที่วัดจากแดงได้ดูแล ถือว่าเป็นวิธีการกำจัดขยะที่ถูกสุขลักษณะและเกิดประโยชน์สูงสุดทั้งต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และประเทศชาติ ซึ่งหน่วยงานหรือองค์กรต่างๆ สามารถนำวิธีการนี้ไปเป็นตัวอย่างในการดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมต่อไป ประเทศไทยจะมีความน่าอยู่มากยิ่งขึ้น

โครงการร่วมใจรักษ์สิ่งแวดล้อม ครั้งที่ 3

 

เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2564 ดร.ประสิทธิ์ ทีฆพุฒิ ประธานมูลนิธิ และทีมจิตอาสา ได้นำเอาขยะพลาสติก ได้แก่ ถุงพลาสติกใสที่ใช้แล้ว แก้วน้ำดื่มพลาสติก หลอดดูดกาแฟ กล่องนม ข้อน-ส้อม จาน โฟมใส่อาหาร ตาข่ายโฟมห่อผลไม้ เป็นต้น ที่ทางทีมจิตอาสาได้เก็บรวบรวมและคัดแยกไว้แล้ว เพื่อนำไปบริจาคให้กับทางวัดจากแดง ต.ทรงคนอง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตจีวรนาโน น้ำมันเชื้อเพลิง ฯลฯ และยังได้ร่วมบริจาคเงินทำบุญกับทางวัด ซึ่งปัจจุบันมีพระภิกษุและสามเณรบวชเรียน ประมาณ 60 รูป

วัดจากแดง สร้างประมาณ พ.ศ.2325 ชื่อ จากแดง สันนิษฐานว่า มาจากคำว่า จากแตน หมายถึง หมู่บ้านของประชาชนที่อพยพมาจากที่อยู่เดิมในอยุธยา ต่อมาเพี้ยนเสียงเป็น จากแดง มีปูชนียวัตถุโบราณที่สำคัญ ได้แก่ พระพุทธรูป หลวงพ่อหิน และ ธัมเมกขสถูป พระสมันตมหาปัฏฐานเจดีย์ ที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ที่มีความงดงดงามตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ปัจจุบัน วัดจากแดง นอกจากจะเป็นสถานที่จัดกิจกรรมทางพุทธศาสนาแล้ว ยังจัดให้มีสถานที่ปฏิบัติธรรม สำนักเรียนพระอภิธรรม (ภาษาบาลี เพื่อการศึกษาพระไตรปิฏก ที่วัดและทางออนไลน์) ให้กับพระภิกษุ สามเณร และประชาชนทั่วไป และยังมีศูนย์การเรียนรู้สิ่งแวดล้อมให้เยาวชนและประชาชนได้เข้าไปศึกษาอีกด้วย

 

 

 

 

 

โครงการร่วมใจรักษ์สิ่งแวดล้อม เป็นโครงการหนึ่งที่ ดร.ประสิทธิ์ ประธานมูลนิธิ มสวท. และทีมงานจิตอาสา ได้เล็งเห็นถึงปัญหาขยะพลาสติกที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันจำนวนมหาศาล อันสืบเนื่องมาจากนโยบายทำงานจากที่บ้าน (work from home) ของภาครัฐและเอกชน เพื่อรองรับมาตรการ อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ เพื่อลดการแพร่ระบาดเชื้อโรคไวรัสโคโรนา (Covid-19) ที่ประเทศไทยประสบตั้งแต่ต้นปี พ.ศ.2563 ซึ่งจะสร้างปริมาณขยะพลาสติกและขยะโฟมที่ใช้บรรจุอาหารและเครื่องดื่มจำนวนมหาศาล ดร.ประสิทธิ์ และทีมงานจิตอาสา จึงได้ร่วมกันดำเนินการเก็บ รวบรวม และคัดแยกขยะพลาสติกและกล่องโฟมที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน เพื่อนำไปบริจาคที่วัดจากแดง จังหวัดสมุทรปราการ เป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2563

ขยะพลาสติกที่นำไปบริจาคครั้งนี้ ส่วนใหญ่เป็นขวดพลาสติกใสที่ใช้บรรจุน้ำดื่ม หรือที่เรานิยมเรียกกันว่า ขวด PET (Polyethylene Terephthalate : โพลีเอทิลีน เทเรฟทาเลต) ซึ่งเป็นพลาสติกที่เหมาะสำหรับนำไป Recycle เพื่อทอเป็น ผ้าไตรจีวร หรือ ผ้าบังสุกุล โดยใช้นวัตกรรมผสม ซิงค์ นาโน (Zinc Nano) ที่สามารถป้องกันแบคทีเรีย ลดกลิ่นอับ มีความนุ่ม ระบายอากาศได้ดี เหมาะสมกับสภาพอากาศร้อนอบอ้าวในเมืองไทย

กระบวนการทำขยะพลาสติกให้กลายเป็น “จีวรรีไซเคิล” 1 ผืน จะต้องใช้ขยะประเภทขวดพลาสติก PET จำนวน 15 ขวด และถ้าเป็นผลิตเป็นผ้าไตรจีวร 1 ชุด จะต้องใช้ขวด PET จำนวน 60 ขวด โดยใช้เทคโนโลยี Upcycling ซึ่งเป็นนวัตกรรมการแปรรูปขยะให้เป็นเส้นใยรีไซเคิล แล้วจึงถักทอผสมผสานกับเส้นใย Polyester Rayon เส้นใยฝ้าย และเส้นใย โพลีเอสเตอร์ ซิงค์ แอนตี้แบคทีเรีย (Polyester Zinc Antibacterial) ที่สามารถป้องกันแบคทีเรีย ลดกลิ่นอับ มีความนุ่ม ระบายอากาศได้ดี เหมาะสมกับสภาพอากาศร้อนอบอ้าวในเมืองไทย

นอกเหนือจากขยะขวด PET แล้ว ทีมงานจิตอาสายังได้รวบรวมขยะพลาสติกอื่นๆ ได้แก่ ถ้วยและขวดพลาสติกสีขุ่น ฝาขวดน้ำดื่ม ป้ายฉลากติดขวด ถุงพลาสติกใสที่ผ่านการใช้งานแล้ว ซึ่งขยะพลาสติกเหล่านีสามารถนำไปผลิตเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยกระบวนการไพโรไลซิส (Pyrolysis) ทำให้ขยะพลาสติกเหล่านี้ไม่เป็นขยะไร้ค่า สามารถนำกลับมาใช้เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงในกิจกรรมเผาศพในวัด หรือ นำไปใส่ในเครื่องจักรกลที่ใช้งานในด้านการเกษตร เป็นต้น

พลาสติก สามารถนำใช้ในชีวิตประจำวันของมนุษย์ได้หลากหลายประเภท หลากหลายประโยชน์มากมาย แต่ขยะพลาสติกนั้นใช้เวลายาวนานกว่า 450 ปี ในการย่อยสลาย ดังนั้น หากทุกคนช่วยกันคัดแยก และเก็บรวบรวมขยะพลาสติก แล้วส่งต่อไปยังสถานที่ที่มีความสามารถในการแปรรูปหรือนำขยะพลาสติกเหล่านี้กลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ได้อีก ย่อมเป็นการใช้ประโยชน์จากพลาสติกได้อย่างคุ้มค่า (เพราะทรัพยากรในโลกนี้มีอยู่จำกัด) เป็นการช่วยลดปัญหามลพิษต่อสิ่งแวดล้อม และลดปริมาณการทำลายระบบนิเวศ และช่วยลดภาวะโลกร้อนได้อีกด้วย

 

มูลนิธิสภาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (มสวท.)

กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

สถานที่ติดต่อ :

288/52 อาคารมูลนิธิ มสวท. ถนนพหลโยธิน แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร 10220

Tel. +66(0) 2552-5200 Fax. +66(0) 2551-4422 Email : thaifstt@gmail.com 

Copyright © 2008-2015 หากมีปัญหาในการรับชมกรุณาติดต่อ Webmaster ที่ admin@thaifstt.org